ปวดศีรษะ ไมเกรนมีลักษณะดังนี้
- การปวดศีรษะที่มากหรือ นานกว่าปวดศีรษะทั่วไป ส่วนใหญ่เกิน 3 ชั่วโมง โดยอาจเป็นนานถึง3 วัน
- ลักษณะมักเป็นปวดตุ้บๆตามชีพจร
- ปวดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
- เคลื่อนไหวแล้วเป็นมากขึ้น
- อาจมีคลื่นไส้ อาเจียน
- อาจมีอาการเห็นแสง หรือ ได้ยินเสียงนำมาก่อน การปวดศีรษะ
สาเหตุไมเกรน
ทางการแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดแต่เชื่อว่าเกิดจากเส้นเลือดตอบสนองต่อสิ่งเร้ามากกว่าปกติทำให้มีการหดขยายของหลอดเลือดและเกิดอาการปวดขึ้น
สิ่งกระตุ้นไมเกรน
- อากาศร้อน แสงแดด
- การอดนอน
- ความเครียด
- การมีรอบเดือนของผู้หญิง หรือ ยาคุม ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง
- การกินอาหารบางชนิด เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง ช็อคโกแลต
การรักษาไมเกรน
- การนอนพักผ่อน
- การกินยาแก้ปวด กลุ่มหลักๆ เช่น
- ยาแก้ปวดทั่วไปพาราเซตามอล (มักใช้ไม่ได้ผลหากมีอาการปวดมาก)
- ยาแก้ปวดแก้อักเสบ (เป็นยากลุ่มแรกที่แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยไมเกรน) เช่น ไอบูโพรเฟน Ibuprofen, ไดโคลฟีแนค Diclofenac, นาพร็อกเซนโซเดียม Naproxen sodium
ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 1 สัปดาห์ อาจทำให้เสี่ยงต่อเลือดออกในกระเพาะ - ยาแก้ปวดไมเกรนกลุ่ม Triptans (ราคาแพง ไม่ค่อยมีตามร้านขายยาทั่วไป ใช้ในกรณีใช้ยากลุ่มแรกไม่ได้ผล) เช่น Sumatriptan
- ยาแก้ปวดไมเกรนกลุ่มเออร์กอต Ergot (ใช้ในกรณีใช้ยากลุ่มแรกไม่ได้ผล อาการเป็นไม่บ่อย และไม่มียากลุ่ม Triptans) เช่น คาเฟอก็อต Cafegot (Caffeine ผสม Ergotamine) ข้อควรระวัง ระวังในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคไต หรือความดันโลหิตสูง
- การกินยาป้องกันปวดศีรษะไมเกรน (กินต่อเนื่องทุกวัน)ใช้ในผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนจนไม่สามารถทำงานได้ 2 ครั้งต่อเดือนขึ้นไป ยากลุ่มที่ใช้เช่น ยาโรคซึมเศร้า ยาลดความดัน ยากันชัก อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยาต่างๆค่ะ
- การฝังเข็มศาสตร์จีน พบว่าเป็นแพทย์ทางเลือกที่ได้ผลดี พบว่าสามารถระงับอาการ ความถี่ และความรุนแรงของอาการปวดศีรษะลงได้
ศาสตร์จีนเชื่อว่า การฝังเข็มตามจุดต่างๆบนร่างกายในผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรน จะทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ลดอาการเลือดคั่ง ซึ่งจุดที่ฝังจะแตกต่างกันตามสภาวะของร่างกายของผู้ป่วยนั้นๆ ต่างจากการแพทย์แผนตะวันตกที่จะใช้ยาตัวเดียวกันรักษา ซึ่งพบว่าบางคนสามารถหายขาดได้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้น บางคนรักษาด้วยการฝังเข็ม 1-2 ครั้งอาการดีขึ้น ส่วนใหญ่ใช้เวลา8-10ครั้ง มากน้อยแล้วแต่อาการและพื้นฐานร่างกายของผู้ป่วยค่ะ
“ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลงไปแล้วแต่บุคคล”
ด้วยความปรารถนาดี
ทีมแพทย์ บีบีเวลเนสคลินิก